วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ปลาทอง


ปลาทอง  เป็นสัตว์น้ำที่ชื่อมีความหมายล้ำค่าแก่ผู้ที่ได้ครอบครอง และยังเป็นปลาที่มีผู้นิยมเลี้ยง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยความหลากหลายของสายพันธุ์ทำให้มีความต้องการของตลาด ทั้งใน ประเทศและต่างประเทศสูงมาก อาชีพการเพาะเลี้ยงปลาทองสามารถทำรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็น อย่างดีปลาทอง บางครั้งนิยมเรียกว่า ปลาเงินปลาทอง มีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Goldfishเป็นปลาน้ำ จืด อยู่ในครอบครัว (Family) Cyprinidae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carassius auratus (Linn.)มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในประเทศจีนตอนใต้ ในธรรมชาติชอบอาศัยตามหนองน้ำและลำคลองที่ติดกับแม่น้ำ ในสภาพแวดล้อมที่ดีปลาทองอาจมีชีวิตยืนยาวอยู่ได้ 20-30ปี แต่ปลาทองที่เลี้ยงไว้ดูเล่นจะมีช่วงชีวิต ประมาณ 7-8 ปี พบจำนวนน้อยมากที่มีอายุถึง 20 ปี ปัจจุบันประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาทองที่ใหญ่ที่สุด

 ประวัติของปลาทอง

ปลาทองมมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและญี่ปุ่น ต่อมาถูกนำไปเลี้ยงในยุโรปเมื่อศตวรรษที่ 17 และถูกนำไปเผยแพร่ในอเมริกา ในศตวรรษที่19 ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นรู้จักผสมพันธ์ปลาทองมานานแล้วและได้ปลาทองลูกผสมที่น่าสนใจ มีสีหลากหลายตั้งแต่สีแดง สีทอง สีส้ม สีเทา สีดำและสีขาว แม้กระทั่งปลาทองสารพัดสีในตัวเดียวกัน ปลาทองมีชีวิตอยู่ตามแหล่งธรรมชาติจนกระทั่งมีชาวจีนบางคน ได้จับมาเลี้ยงตามบ่อเพราะดูน่าตาสวยดี สีสันแปลกตา สร้างความเพลิดเพลินใจได้เป็นอย่างดี จึงเลี้ยงสืบต่อกันมาเรื่อย ๆ ทำให้มีการ แปรผันผันแปร และพัฒนาเรื่อยมา ประกอบกับความนิยมเลี้ยงที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ปลาทองที่เลี้ยงมีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนแปรไป เช่น แต่เดิมปลาทองจะหาอาหารตามบ่อน้ำธรรมชาติเพื่อเลี้ยงชีวิตซึ่งต้องออกเรี่ยวออกแรง ไขมันส่วนเกินก็ไม่มี หุ่นก็เพรียวลม ครั้นย้ายนิวาสสถานมาอยู่ตามบ่อเลี้ยง อาหารปลาก็ถูกนำมาเสริฟกันถึงขอบบ่อ แถมเสริฟเป็นเวลาซะด้วย ทำให้ปลาทองบางตัวพุงป่องดูอ้วนตุ้ยนุ้ยขึ้นและหากลักษณะต่างๆดังกล่าวเกิดเป็นที่ประทับใจมนุษย์หรือคนดูคนชมว่าสวยแล้ว ก็จะถูกขุนขึ้นไปเรื่อยๆตามสูตร ปลาทองถูกมนุษย์เลี้ยงมาตั้งแต่อดีต ประมาณ พ.ศ. 1161-1450 หรือนับเป็นพันปีมาแล้ว ปลาทองในสภาพธรรมชาติที่ไม่ได้ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงนั้นก็ได้พัฒนาตัวเอง ทำมาหากินตามธรรมชาติ สืบทอดสายพันธ์มาจนถึงปัจจุบัน ก็แทบจะเป็นคนละปลาเดียวกันกับปลาทองของวันนี้เลย เพราะเมื่อพิจารณาดูจะพบว่าปลาใน ปลาตะเพียนทั้งหลายแหล่ต่างก็อยู่ในเทือกเขาเหล่าตระกูลเดียวกันกับปลาทอง คือ FAMILY CYYPRNDAE
         

[แก้ไข] น้ำที่ควรนำมาเลี้ยงปลาทอง

         น้ำบาดาล เป็นน้ำที่สูบจากใต้ดิน มีแร่ธาตุละลายปนมา เช่น สนิมเหล็ก น้ำจะมีกลิ่นแร่ธาตุ กลิ่นโคลนและมีปริมาณออกซิเจนต่ำซึ่งแก้ไขโดยนำน้ำมาพักทิ้งไว้เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ น้ำบาดาลที่ได้จากแหล่งน้ำใต้ดินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงปลา จัดเป็นแหล่งน้ำที่ดีเพราะ มีเชื้อโรคปนเปื้อนต่ำและสามารถใช้ได้ตลอดฤดูกาล
         น้ำประปา น้ำประปาเป็นน้ำที่สะอาดและมีคุณสมบัติเหมาะสมนำมาใช้เลี้ยงสัตว์น้ำได้ดี เนื่องจากน้ำ ประปาผ่านการบำบัดและการกรองหลายขั้นตอน ปราศจากเชื้อโรค แต่มีราคาแพงและมีปัญหาเรื่อง ปริมาณคลอรีนที่หลงเหลืออยู่ในน้ำ ซึ่งวิธีการกำจัดคลอรีนสามารถดำเนินการได้ดังนี้
  • พักน้ำไว้ 2-3 วันหรือพักไว้ในที่แจ้งตากแดดตลอดเวลา 24 ชั่วโมงคลอรีนจะแตกตัวระเหยไปกับ
อากาศ
  • ใช้กรองด้วยถ่านคาร์บอน (Ativated carbon)
  • ถ้าต้องการใช้น้ำเลี้ยงปลาทันที สามารถเติมโซเดียม ไธโอซัลเฟต อัตรา 1 เกล็ดต่อน้ำ 5 ลิตร
         

[แก้ไข] อาหารปลาทอง

อาหารธรรมชาติ ถึงแม้ปลาทองจะเป็นปลาที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร (Omnivorous) แต่ในธรรมชาติชอบกินอาหารพวกลูกน้ำไรแดง (Moina) ไรสีน้ำตาล (Artemia) หนอนแดง และ ไส้เดือนน้ำ อาหารมีชีวิตเหล่านี้มีคุณค่าทางอาหารสูงทำให้ปลาโตเร็วมีความสมบูรณ์ทางเพศดี เหมาะสมต่อการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาทอง โดยให้วันละ 2-3 ครั้ง อาหารธรรมชาติจะให้ในสภาพ ที่มีชีวิตหรือตายแล้วก็ได้ หากเป็นอาหารที่ตายแล้วต้องให้ปริมาณที่พอเหมาะ ถ้ามีอาหารเหลือต้อง รีบดูดทิ้งทันที เนื่องจากอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียและเกิดโรคได้ ปัจจุบันเกษตรกรในจังหวัดนครปฐมและราชบุรีได้เพาะเลี้ยงปลาทองโดยใช้หนอนแมลงวันหรือ หนอนขี้หมูขาว ซึ่งเกิดในบริเวณเล้าหมู เรียกว่า หนอนขี้หม ู นำมาเลี้ยงปลาใช้เป็นอาหารปลาทอง ขนาดอายุ 1-2 เดือนขึ้นไป แต่ในการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาควรระวังอย่าให้กินหนอนขี้หมูมาก เพราะ จะทำให้ปลาอ้วนเกินไปซึ่งมีผลทำให้ปริมาณไข่ที่ออกน้อย
         

[แก้ไข] สายพันธุ์และแหล่งกำเหนิดของปลาทอง

ภาพ:ปลาทองหัวสิงห์.jpg
  • ชื่อไทย ทองหัวสิงห์
  • ชื่ออังกฤษ Lion head gold fish
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carasius auratuss
  • แหล่งกำเนิด ประเทศจีน
ปลาทองหัวสิงห์เป็นปลาทองชนิดที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้เลี้ยงปลา ปลาชชนิดนี้มีรูปทรงสง่างาม มีอยู่ 2 สายพันธุ์คือ สิงค์จีนและสิงห์ญี่ปุ่น สิงห์จะมีลักษณะ หัวใหญ่ส่วนใหญ่จะมีวุ้นหนา ลำตัวยาว สิงห์ญี่ปุ่นส่วนหัวจะเล็กกว่าส่วนใหญ่ไม่มีวุ้น ลำตัวสั้น หลังจะโค้งมน หางสั้นและเชิดขึ้นดูสง่างาม ปลาทองหัวสิงห์เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินลูกน้ำ ไรแดง ไข่น้ำ การเลี้ยงปลาชนิดนี้ให้ได้ดีควรเลี้ยงในอ่างตื้น ๆ ลึกไม่เกิน 8 นิ้ว จะทำให้ปลามีรูปร่างสวยงาม
ภาพ:ปลาทองริวกิ้น.gif
  • ชื่อไทย ริวกิ้น
  • ชื่ออังกฤษ Veiltail
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carrasius auratus
  • แหล่งกำเนิด ประเทศจีน
ปลาทองริ้วกิ้นเป็นปลาทองที่นิยมของผู้เลี้ยงปลา เนื่องจากมีรูปทรงสวยงาม ลำตัวป้อมสั้น ท้องใหญ่ หางยาวเป็นพวง ส่วนหัวสูง ลำตัวเป็นสีส้ม หรือส้มแดงปนขาว เวลาว่ายน้ำจะเป็นถ่วงท่าที่ดูสง่างาม ปลาชนิดนี้มีทั้งที่สั่งมาจากประเทศญี่ปุ่นและเพาะพันธ์ ขึ้นเองในประเทศ ปลาจากญี่ปุ่นจะมีรูปร่างและสีดีกว่าของไทยแต่มีราคาสูงกว่าของไทยมาก ตู้ที่เลี้ยงปลาชนิดนี้ต้องมีน้ำใสสะอาด ไม่ควรให้น้ำเย็นเกินไป ปลาริ้วกิ้นชอบกินลูกน้ำ ไรสีน้ำตาล และอาหารสำเร็จ
ภาพ:ปลาทองชูบุงกิง.jpg
  • ชื่อไทย ชูบุงกิง
  • ชื่ออังกฤษ Speckled gold fish
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carassius auratus
ปลาทองชุงบุงกิง หรือตลาดค้าปลาสวยงาม เรียกว่า ชูบานกิ้น เป็นปลาทองที่มี ลักษณะเด่นที่มีครีบหางเดี่ยวแยกเป็น 2 แฉก ลำตัวเรียวยาว ลำตัวส่วนมากมีสีส้ม ส้มแดง แดงขาว อาจมีสีดำประบ้าง ปลาทองชนิดนี้เลี้ยงง่าย เป็นปลาที่มีความทนทานมาก ว่ายน้ำ ได้ปราดเปรียว กินอาหารเก่ง กินได่แทบทุกประเภท ปลาทองชุงบุงกิงเทื่อเลี้ยงอยู่ในบ่อ ดูเผิน ๆ จะคล้ายกับปลาคาร์ปมาก บางตัวมีสีสดสวยกว่าปลาคาร์ป ปลาชนิดนี้จึงเป็น ที่นิยมเลี้ยงกันมากชนิดหนึ่ง
ภาพ:ปลาทองเลห์.jpg
  • ชื่อไทย ทองเล่ห์
  • ชื่ออังกฤษ Telescope black moor
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carassius auratus
  • แหล่งกำเนิด ประเทศจีน
         ปลาทองเลห์ เป็นปลาที่มีลักษณะเด่นที่มีลำตัวสีดำสนิทแม้กระทั่งครีบ ทุกครีบ ปลาชนิดนี้นับว่าเป็นที่นิยมเลี้ยงกันพอสมควร เป็นปลาทองที่มีตาโตโปน ออกมา ครีบหางบานใหญ่ บางชนิดมีชื่อเรียกว่า เล่ห๋ตุ๊กตา หรือเล่ห์หางผีเสื้อ เนื่องจากครีบหางแผ่กว้างสวยงามคล้ายผีเสื้อ จัดว่าเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้สง่างาม น่ารัก เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายชอบอาหารพวกลูกน้ำ ไรสีน้ำตาล หนอนแดงและอาหารสำเร็จรูป สามารถเลี้ยงปนกับปลาทองชนิดอื่นได้
ภาพ:ปลาทองตาลูกโป่ง.gif
  • ชื่อไทย ทองตาลูกโป่ง
  • ชื่ออังกฤษ Buble eye gold fish
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carassius auratus
  • แหล่งกำเนิด ประเทสจีน
         ปลาทองตาลูกโป่งเป็นปลาที่มีลักษณะเด่นเป็นที่สังเกตได้ง่ายตรงที่มีตาใหญ่ คล้ายลูกโป่ง ทำให้ปลาชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดี ปลาชนิดนี้มีลำตัวยาว ปกติจะไม่มีครีบหลัง การที่มีตาขนาดใหญ่ทำให้ว่ายน้ำได้เชื่องช้า คนส่วนใหญ่ชอบซื้อปลาที่มีขนาดตาใหญ่ 2 ข้างเสมอกัน การเลี้ยงปลาชนิดนี้ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นปลาที่เปราะบาง มีจุดอ่อนที่ตา ไม่ควรเลี้ยงกับปลาที่ดุร้ายอื่นๆ กินลูกน้ำ ไรสีน้ำตาล และอาหารสำเร็จ
ภาพ:ปลาทองเกล็ดแก้ว.gif
  • ชื่อไทย ทองเกล็ดแก้ว
  • ชื่ออังกฤษ Peal Scale Gold Fish
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carassius aruatus
  • แหล่งกำเนิด ประเทศจีน
         ปลาทองเกล็ดแก้วมีลักษณะเด่นอยู่ที่ลำตัวป้อมสั้น ส่วนมากจะกลม เกล้ดจะ หนานูนขึ้นแตกต่างกับปลาทองพันธ์อื่น ๆ ปลาที่มีลักษณะดีเกล็ดควรจะเรียงเป็นระเบียบ ส่วนหัวอาจมีวุ้นหรือไม่มีก็ได้ ปลาทองเกล็ดแก้วเป็นปลาทองที่ต้องการการดุแลเอาใจใส่ เป็นพิเศษ เป็นปลาที่ค่อนข้างจะบอบบาง กินอาหารพวกลูกน้ำ ไรสีน้ำตาล อาหารเม็ด ไม่ควรเลี้ยงปนกับปลาชนิดอื่น
ภาพ:ปลาทองออแรนดา.jpg
  • ชื่อไทย ทองออแรนดา
  • ชื่ออังกฤษ Oranda
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ Carassius auratus
  • แหล่งกำเนิด ประเทศจีน
         ปลาทองออแรนดาเป็นปลาทองที่มีช่วงลำตัวยาว ครีบทุกครีบยาว โดยเฉพาะ ครีบหางจะยาวเป็นพวงสวยงาม บริเวณหัวอาจจะมีวุ้นหรือไม่มีก็ได้ เป็นปลาที่สามารถ เจริญเติบโตมีขนาดใหญ่กว่าปลาทองชนิดอื่น ปลาชนิดนี้เลี้ยงง่ายเป็นที่รู้จักทั่วไป กิน อาหารจำพวกลูกน้ำ ไรสีน้ำตาล อาหารเม็ดสลับกันไป เลี้ยงรวมกับปลาทองชนิดอื่นได้

         

[แก้ไข] เกล็ดความรู้เกี่ยวกับปลาทอง

  • 1.ปลาทองเป็นปลาที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน
  • 2. ปลาทองถูกนำไปเลี้ยงยังต่างประเทศ ประเทศแรกที่นำไปเลี้ยงคือญี่ปุ่น
  • 3. การฟักตัวของไข่ปลาทองจะขึ้รอยู่กับอุณหภูมิของน้ำและสภาพของไข่ ในอุณหภูมิ 15-19 ํc
  • 4. ญี่ปุ่นคือประเทศแรกที่พัฒนาปรับปรุงพันธ์ปลาทองให้มีความสวยงาม แม้จะเลี้ยงหลังประเทศจีนก็ตาม
  • 5. ปลาทองสามารถอดอาหารได้นานนับเดือน จากสถิติพบว่าบางตัวอดอาหารได้เกือบ 9 เดือนเต็ม
  • 6. ช่วงอุณหภูมิที่ปลาทองสามารถปรับอยู่ไดจะอยู่ระหว่าง 0-35 ํc และช่วงอุณหภูมิที่ดีที่สุดคือ 20-25 ํc
  • 7. ความสัมพันธ์ระหว่างช่วงเวลาของการฟักไข่ปลาทองกับอุณหภูมิของน้ำ
  • 8. ในการเลือกซื้อปลาทอง ควรเลือกปลาตัวที่ไม่เก็บครีบแนบกับลำตัวเพราะถือเป็นปลาที่มีลักษณะด้อย
  • 9. สังเกตที่สีสันของปลา เลือกปลาที่มีสีสันสดที่สุด หลีกเลี่ยงปลาตัวที่มีหม่นหมองหรือสีจาง ๆ
  • 10. สังเกตดูลักษณะการว่ายน้ำไปในสายน้ำ เลือกปลาตัวที่ว่ายน้ำไปได้อย่างปราดเปรียวและคล่องแคล่วที่สุด
  • 11. สังเกตดูในขณะที่ปลาว่ายอยู่ในตู้ ครีบบนหลังตั้งชู แม้ว่าจะพลิ้วไปในสายน้ำ แต่ไม่ควรจะมีลักษณะงองุ้มหรือหักเข้าข้างลำตัว ปลาที่มีครีบตั้งขึ้นแสลงว่าเป็นปลาที่คุณภาพดีมาก
  • 12. อย่าเลือกซื้อปลาตัวที่เคลื่อนไหวอยู่กับกรวดทรายก้นตู้ปลา หรือไม่ว่ายน้ำแต่นิ่งซึมอยู๋มุมใดมุมหนึ่งก้นตู้ เพราะนั่นเป็นสัญญานแสดงให้เห็นว่าปลาสุขภาพไม่ดีหรืออาจตายได้ง่าย
  • 13. พยายามหาจุดสีขาวบนตัวปลา โดยอาจจะเป็นจุดเล็ก ๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นจุดธรรมชาติของปลา หากปลาทองมีจุดฝ้าสีขาวอยู่บนลำตัวนั่นคือปลาที่เจ็บป่วย
  • 14. น้ำที่จะใช้เลี้ยงปลาทองหากเป็นน้ำประปาหรือน้ำบาดาลต้องมีการพักน้ำทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้สารพิาต่างๆ ที่ปนอยู่ได้คลายตัวไปบ้าง เช่น คลอรีน คาร์บอนไดออกไซด์
  • 15. ปลาทองที่วางไข่ครั้งแรกแล้วจะสามารถวางไข่ติดต่อกันไปอีกเป็นเวลาประมาณ 6-7 ปี
  • 16. ปลาทองเป็นปลาที่วางไข่ตลอดทั้งปีแต่จะชุกมากในเดือนเมษายน-ตุลาคม หรือช่วงที่อากาศไม่เย็นจนเกินไป
  • 17. การเร่งหรือยืดเวลาในการฟักไข่ของปลาทองโดยการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำไม่มีผลให้ลูกปลามีสภาพดีขึ้นแต่กลับเกิดผลเสียมากกว่า
  • 18. การย้ายแม่ปลาทองที่ออกไข่จะต้องย้ายทันทีเมื่อปลาทองวางไข่เพราะมันจะเริ่มกินไข่ของตัวเองทันทีในวันต่อมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น