ขนมต้มเป็นขนมที่มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่
สมัยสุโขทัย เข้ามาพร้องกับ
ศาสนาพราหมณ์และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า โดยเชื่อกันว่า
พระพิฆเนศโปรด
ขนมนี้มาก ครั้งหนึ่งเสวยเข้าไปจนเต็มพุง เมื่อขี่หนูกลับวิมาน
ระหว่างทางหนูมาเจองู ตกใจจึงหยุดทันที พระพิฆเนศตกจากหลังหนู พุงแตก
พระพิฆเนศเสียดายขนมจึงกอบเข้าใส่พุงใหม่แล้วเอาซากงูที่ตีตายแล้วมาพันพุง
ไว้ แล้วจึงกลับไปวิมาน
[1]ต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวง
เทวดา ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้ง
ศาลพระภูมิ ในประเพณีสู่ขอแต่โบราณในบางท้องที่ใช้ขนมต้มด้วย ดังมี
เพลงพวงมาลัยร้องเล่นว่า
[2]
โอ้ละเหยลอยมา |
|
ลอยมาแล้วก็ลอยไป |
พ่อแม่ท่านเลี้ยงมายาก |
|
จะกินขันหมากให้ได้ |
ไม่ได้กินหนมต้มอมน้ำตาล |
|
น้องไม่รับประทานของใคร |
พวงเจ้าเอ๋ยมาลัย |
|
ถอยหลังกลับไปเถิดเอย |
ขนมต้มขาวนั้น ใช้แป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลม ใส่ไส้น้ำตาลหม้อ
ลงไปต้มให้สุก โรยด้วยมะพร้าวขูด ต่อมาจึงทำหน้ากระฉีก
ซึ่งเป็นมะพร้าวขูดมาเคี่ยวกับน้ำตาลหม้อจนเหนียว ใช้เป็นไส้แทน
ส่วนขนมต้มแดง ใช้แป้งข้าวเหนียวแผ่เป็นแผ่นแบน ต้มให้สุก
ราดด้วยหน้ากระฉีกที่ค่อนข้างเหลว
[1]
ขนมที่เรียกว่าขนมต้มของภาคใต้จะต่างไปจากภาคกลาง ขนมต้มของภาคใต้จะเป็นข้าวเหนียวผสมน้ำกะทิห่อใบ
กะพ้อแล้วเอาไปต้ม บางท้องที่เรียกห่อต้ม ขนมที่ทำแบบนี้ทางภาคกลางเรียก
ข้าวต้มมัดหรือข้าวต้มผัด
[3]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น